วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

กำเนิดกีฬาโอลิมปิก


ในบันทึกของชาวกรีกในปี776ก่อคริสต์ศักราชได้ปรากฏการจัดการแข่งขันกีฬาของชาวกรีกขึ้นที่เมืองโอลิมเปียบริเวณเขาโอลิมปัส ในตำนานชาวกรีกเพโลคือผู้ก่อตั้งกีฬาโอลิมปิกขึ้น นอกจากนี้เมืองโอลิมเปียยังถูกใช้เป็นที่ประชุมเป็นศูนย์กลางศานสนาอีกด้วย 

โอลิมปิกเกมมีความเกี่ยวข้องด้านศาสนาของเทพเจ้าซุสการจัดโอลิมปิกในสมัยกรีกนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงคุณสมบัติทางกายภาพของนักกีฬาและเป็นการเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆของกรีก 

ผู้ที่ชนะในกีฬาโอลิมปิกสมัยกรีกจะได่รับกิ่งของต้นปาล์มและสวมริบบิ้นแดงที่หัวและได้รับการชูมือเพื่อแสดงถึงชัยชนะจากนั้นในวันสุดท้ายของการแข่งขันจะมีการมอบรางวัลอย่างเป็นทางการอีกครั้งที่บริเวณวิหารของซุสซึ่งจะมีการประกาศชื่อผู้ชนะชื่อของพ่อและบ้านเกิดของผู้ชนะด้วยและมีการสวมมงกุฎช่อมะกอกซึ่งถือเป็นต้นไม้ศักสิทธ์บนศรีษะของผู้ชนะอีกด้วยซึ่งทำเนียมนี้ยังใช้ยึดถือปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน

ชาวกรีกได้มีการจัดกีฬาโอลิมปิกมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนกระทั่งถึงปีคศ.393จักรพรรดิแห่งโรมันได้สั่งห้ามเพราะกีฬาโอลิมปิกของชาวกรีกถือเป็นลัทธิทางศาสนา แต่ก็ได้มีการลื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ในปัจจุบัน

กีฬามาราธอน

กีฬามาราธอนนั้นมีจุดเริ่มต้นที่อาณาจักรกรีกในปี490ก่อนคริสต์ศักราช โดยได้มีการบันทึกโดยนายฮีโรโดโทสเอาไว้ว่า ฟิลิปิเดสได้วิ่งเป็นระยะทาง200กิโลเมตรโดยใช้เวลาสองวันจากเมืองมาราธอนไปที่เมืองเอเธน เพื่อส่งข่าวเกี่ยวกับสงครามที่กองทัพชาวกรีกมีชัยชนะเหนือชาวเปอร์เซียผู่รุกรานและนายฟิลิปิเดสก็ได้สิ้นใจหลังจากแจ้งข่าวนี้ให้ชาวเอเธนทราบ จากบันทึกนี้เองเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดกีฬามาราธอนที่ได้รับความนิยมจากนานาชาติและมีการบันจุการแข่งขันกีฬามาราธอนเข้าไปในกีฬาโอลิมปิกปี1896เป็นครั้งแรก ผู้ที่ชะการแข่งขันก็เป็นชาวกรีกที่ชื่อว่าซิปริดอน ลูอิส




วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

สมัยใหม่และหลังสมัยใหม่

Modernคือยุคสมัยใหม่ เริ่มตั้งแต่คริสศตวรรษที่15เป็นต้นมา ผู้คนในยุโรปเริ่มตื่นตัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆสิ่งที่เป็นความจริงตามหลักสากลไม่ได้ยึดติดหรือเคร่งกับความเชื่อของพระเจ้า จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรม ในคริสศตวรรษที่17เกิดการค้นคว้าเรื่องต่างๆด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ชาวยุโรปในยุคนี้เชื่อในเรื่องของเหตุผลและความจริงมีความเชื่อว่าทุกสิ่งที่สร้างขึ้นต้องพัฒนาเพื่อความทันสมัย ความคิดแบบนี้เรียกว่าModernism มีการศึกษาค้นคว้าทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆทำให้ชาวยุโรปในยุคนั้นเป็นชนชาติที่เจริญก้าวหน้าและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ในยุคนี้ชาวตะวันตกมีความเชื่อว่าโลกกลมและมีเทคโนโลยีการเดินเรือที่ทันสมัยจึงมีการเดินเรือออกแสวงหาดินแดนใหม่ๆทำแผนที่และการติดต่อค้าค้ายกับชาติอื่นเพื่อความมั่งคั่ง วัฒนธรรมจากตะวันตกก็ได้เผยแพร่ไปสู่ประเทศอื่นๆและเกิดการล่าอาณานิคมในเวลาต่อมา

PostmodernคือยุคสมัยหลังจากยุคModern เกิดขึ้นเพราะผลจากการล่าอาณานิคมและคนได้รับการศึกษาจากชาติตะวันตกมากขึ้นเป็นองค์ประกอบสำคัญ ยุคนี้ความคิดของคนเปลี่ยนไป ไม่เน้นเรื่องความจริงหรือเเหตุผล แต่มีความคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ถูกกำหนดจากผู้ที่เจริญกว่า ทุกวัฒนธรรมบนโลกมีเหตุผลของตัวเองเหมาะสมกับความเป็นอยู่รูปแบบบ้านเมืงของคนในวัฒนธรรมนั้นๆและคิดว่าวัฒนธรรมของชาวตะวันตกเอาเปรียบริดรอนสิทธิเสรีภาพของวัฒนธรรมอื่นเพราะชาวตะวันตกในยุคModernคิดว่าวัฒนธรรมของตนเองดีที่สุด ความคิดของคนในยุคPostmodernจึงเน้นที่อิสระภาพและเสรีภาพ มีการยำเอาสิ่งต่างๆมาผสมผสานกันวัฒนธรรมต่างๆจึงอยู่รวมกันได้โดยมีการปรับประยุกค์ให้เหมาะแก่สังคมในแต่ละที่ ความคิดของคนยุคนี้เรียกว่าPostmodernism

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

อิทธิพลตะวันตกด้านที่อยู่อาศัย

การสร้างบ้านของคนไทยตั้งแต่ในอดีตนั้นนิยมสร้างบ้านให้อยู่ติดกับแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อสะดวกแก่การเดินทางและการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำในด้านอื่นๆ ลักษณะของบ้านจะเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงเพื่อป้องกันน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากและยังช่วยถ่ายเทอากาศได้สะดวก เมื่อลูกหลานในบ้านมีครอบครัวมีสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็จะปลูกบ้านให้อยู่ในบริเวณเดียวกันและยังมีการต่อเติมโดยขยายออกจากเรือนหลังเดิมอีกด้วย บ้านของคนไทยจึงเป็นลักษณะนี้มาอย่างช้านาน แต่เมื่ออิทธิพลของชาวตะวันตกแพร่เข้ามาในประเทศไทยอย่างมากในช่วงสมัยรัชกาลที่สี่ บ้านทรงไทยแบบเดิมได้พัฒนาไปแบบตะวันตกมากขึ้นโดยเริ่มมีบ้านที่สร้างด้วยอิฐและปูนมากขึ้น แต่ก็ยังมีรูปแบบของไทยอยู่ผสมผสานกัน ในสมัยรัชการที่ห้าการสร้างบ้านหลังคาทรงปั้นหยามีให้เห็นมากขึ้นตัวบ้านยังยกพื้นอยู่แต่ไม่สูงเหมือนก่อน สมัยรัชกาลที่หกคนไทยนิยมสร้างบ้านแบบตะวันตกตามแบบของบ้านวิตอเรียของประเทศอังกฤษโดยมีการตกแต่งด้วยลายฉลุ มีการเล่นรูปทรงหกหรือแปดเหลี่ยมแต่ต่อมาก็ได้ลดความหรูหราลงมาบ้างเพราะปัญหาเศรฐกิจ ในสมัยรัชกาลที่แปดคนไทยเริ่มนิยมปลูกบ้านสองชั้นไม่มีใต้ถุนมีหน้าต่างบานเกร็ดแต่ยังใช้ไม้ในการปลูกอยู่จนมาถึงปัจจุบัน ไม้ลดความนิยมลงเพราะมีราคาแพงคนไทยจึงนิยมปลูกบ้านด้วยคอนกรีตเพราะมีความแข็งแรงทนทานรูปทรงก็เป็นแบบบ้านสมัยใหม่เป็นแบบจากชาวตะวันตกและไม่นิยมปลูกบ้านใกล้แหล่งน้ำแต่เปลี่ยนมาปลูกบ้านติดถนนแทน ในปัจจุบันที่ดินมีราคาสูงขึ้นจึงนิยมสร้างตึกสูงที่ใช้พื้นที่ไม่กว้างแต่สามารถจุผู้อยู่อาศัยได้มากกว่าบ้านแบบเดิมที่เน้นขยายออกด้านกว้าง และยังมีอาคารต่างๆมากมายที่เราพบเห็นได้ทุกที่ล้วนแต่เป็นอิทธิพลจากตะวันตกแทบทั้งสิ้น บ้านทรงไทยที่มีคนอาศัยอยู่จริงๆก็มีให้เห็นน้อยมาก การสร้างอาคารบ้านเรือนแบบชาวตะวันตกจึงมีอิทธิพลกับคนไทยมากอย่างที่เราสามารถเห็นได้ในปัจจุบัน

(อ้างอิงจาก http://lms.thaicyberu.go.th)